Secret Part of ‘BREAK THE RULES’



     เป็นเวลาสิบกว่านาทีแล้วที่เวลาล่วงเลยผ่านไปหลังจากที่เขาตอบกลับข้อความของเพื่อนสนิท ขายาวก้าวไปยังประตูกระจกใสที่กั้นระหว่างโซนห้องนอนกับระเบียงด้านนอกเอาไว้ มือขาวที่มีเส้นเลือดปูดขึ้นตามหลังมือประปรายค่อยๆแหวกผืนผ้าสีเทาออกก่อนจะใช้สายตาสอดส่องมองหาความผิดปกติด้านนอก
     หลังจากตรวจดูจนพอใจแล้วผ้าม่านผืนหนาก็ถูกจัดวางไว้ดังเดิมเหมือนตอนที่ยังไม่มีใครมาแตะต้อง แต่ก่อนที่จะได้ก้าวออกไปไหนประสาทสัมผัสที่ไวกว่าคนปกติทั่วไปก็ส่งสัญญาณเตือนว่าบัดนี้เขาไม่ได้อยู่ในห้องนี้ตามลำพังอีกต่อไป ไวเท่าความคิดมือขาวล้วงหยิบมีดพกปลายแหลมออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อสูทก่อนจะหมุนตัวหันหลังพร้อมกับยกปลายมีดขึ้นจ่อคอหอยบุคคลนิรนาม


หมับ!

“จะฆ่าผมรึไง” มือหนาจับข้อมือบอดี้การ์ดคนโปรดไว้ได้ทันท่วงทีและในจังหวะเดียวกันนั้นดวงตาเสี้ยวพระจันทร์ก็เบิกกว้างอย่างตกใจ

“ขอโทษครับคุณเพลิง ผมไม่คิดว่าจะเป็นคุณ”

“นี่มันห้องพักผมนะ ถ้าไม่ใช่ผมแล้วใครจะเข้ามาได้อีก”


เมื่อได้ยินดังนั้นน้ำจึงปิดปากไม่พูดอะไรต่อแล้วเปลี่ยนมาเป็นก้มหัวแสดงความขอโทษแก่เจ้านายแทน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อร่างสูงตรงหน้ากระชากแขนของเขาข้างที่เจ้าตัวยังจับไว้อยู่เข้าหาตัวเอง มือขาวรีบปล่อยอาวุธประจำกายออกจากมือทันทีเพราะกลัวว่าปลายคมๆของมีดจะไปบาดผิวของเจ้านายเข้า

“อ๊ะ! คุณเพลิง”

“ว่าไง” ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมกับมือหนาที่ลากไล้ไปตามช่วงเอว

“คุณเพลิงกำลังจะทำอะไรครับ”

“กำลังจะให้รางวัลบอดี้การ์ดคนเก่งของผม”

“รางวัล? รางวัลอะไรค— อื้ม”


ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคดีริมฝีปากที่ได้แต่เฝ้ามองมาเนิ่นนานก็เคลื่อนเข้าทาบทับริมฝีปากของน้ำอย่างรวดเร็ว เพลิงค่อยๆขบเม้มไปตามรอยแยกอย่างใจเย็นเพื่อให้คนในอ้อมกอดผ่อนคลายจากอาการตกใจก่อนจะดุนดันลิ้นสีสดของตัวเองเข้าไปสำรวจโพรงปากเล็ก ไล่ตั้งแต่ซี่ฟันลงมายังปลายลิ้นจิ้มลิ้มของอีกฝ่าย แกล้งใช้ปลายลิ้นของตัวเองลากผ่านปลายลิ้นของคนตัวเล็กเร็วๆให้อีกคนสะดุ้งเล่นก่อนจะผละออกมา

“คุณเพลิงทำแบบนี้ทำไมครับ”

“คุณชอบผมไม่ใช่เหรอ”

“…..” น้ำเงยหน้าขึ้นสบตาเพลิงทันทีด้วยความตกใจ

“ผมว่าถึงเวลาแล้วที่ผมควรจะตอบแทนอะไรคุณบ้าง”

“คุณ…คุณรู้ได้ยังไง”

“ผมไม่ใช่คนโง่ คุณก็รู้ดีกว่าใคร”

“ผมขอโทษ มันไม่สมควร บอดี้การ์ดอย่างผมไม่มีสิทธิ์—” ประโยคขอโทษหยุดชะงักทันทีเมื่อร่างสูงตรงหน้ายกนิ้วชี้ขึ้นมาวางไว้บนริมฝีปากเชิงสั่งให้หยุดพล่ามอะไรไร้สาระได้แล้ว

“ผมอนุญาต”


สิ้นสุดประโยคดังกล่าวริมฝีปากหนาก็เคลื่อนเข้าหาเป้าหมายอีกครั้งและดูเหมือนว่าคราวนี้บอดี้การ์ดคนโปรดจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ลิ้นเล็กถูกยื่นออกมาด้านนอกเพื่อสะดวกต่อการดูดดึงซึ่งการกระทำแบบนั้นทำให้เพลิงพอใจอยู่ไม่น้อย เสื้อสูทตัวนอกถูกถอดทิ้งอย่างไม่ใยดีก่อนที่ร่างทั้งร่างของน้ำจะถูกเพลิงผลักให้ทิ้งดิ่งลงมายังเตียงนอนพร้อมกับการที่ร่างสูงตามขึ้นมาคร่อมในทันที

     ปืนกระบอกใหญ่ถูกชักออกไปจากขอบเอวก่อนที่ร่างสูงจะทิ้งน้ำหนักตัวลงบนหน้าขาเล็กทั้งสองข้างของน้ำ มือหนาทำการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกอย่างอ้อยอิ่งโดยในระหว่างถอดนั้นสายตาคมก็เอาแต่จับจ้องไปยังดวงตาที่กำลังสั่นระริกของคนที่นอนอยู่ใต้ล่าง หลังจากที่กระดุมทุกเม็ดเป็นอิสระเสื้อเชิ้ตสีเข้มก็หลุดออกไปจากร่างกายกำยำทันที

     ใบหน้าคมสวยขึ้นสีเลือดฝาดทันทีกับภาพตรงหน้า เขายอมรับว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นอะไรอย่างนี้แต่ในสถานการณ์แบบนี้เขาเพิ่งได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรก

“เดี๋ยวก่อนครับ” มือขาวยกขึ้นดันหน้าท้องที่เต็มไปด้วยร่องซิกแพคในจังหวะที่คนด้านบนกำลังโน้มตัวลงมาและนั่นทำให้น้ำต้องพยายามผ่อนลมหายใจให้อยู่ในจังหวะปกติที่สุด

“ว่าไง มาถึงขนาดนี้แล้วจะให้หยุดเหรอ” เพลิงยืดตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้พอดีกับความยาวแขนที่ใช้ท้าวกับเตียงนอน

“ถ้าเราทำ มันจะผิดต่อคุณไวน์นะครับ” ร่างโปร่งหลุบตาลงต่ำขณะพูด ยอมรับว่าเขาอยากที่จะเป็นของร่างสูงแต่ความรู้สึกผิดมันก็ผุดขึ้นมาในจิตใจเช่นกัน

“คิดให้ดีนะว่าต้องการให้ผมหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้จริงๆ”


น้ำหอบหายใจหนักขึ้นเพราะความคิดและความรู้สึกหลายๆอย่างในหัวตอนนี้ตีกันเละไม่เป็นท่า เขาไม่ใช่คนดีอะไรนักหรอกแต่จะให้ทำร้ายคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างคุณไวน์มันก็ไม่ใช่นิสัยของเขา ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ที่น้ำนอนนิ่งใช้ความคิดโดยมีร่างสูงของเพลิงคร่อมไว้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนด้านบนเริ่มขยับตัวและเป็นการขยับที่ทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองเพิ่มมากขึ้น


มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ


     ไวกว่าความคิดมือขาวเอื้อมไปดึงรั้งสร้อยเงินที่ประดับอยู่บนคอแกร่งทันที ตาคมเลื่อนมาจับจ้องยังใบหน้าสวยอีกครั้ง น้ำจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเจ้านายอย่างมีความหมายพร้อมกับที่ค่อยๆออกแรงดึงรั้งสร้อยให้เคลื่อนเข้าหาตัวเองและริมฝีปากของทั้งคู่ก็สัมผัสกันอีกครั้ง ตอนนี้สร้อยเงินของร่างสูงถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้วเพราะว่ามือขาวนั้นกำลังลากต่ำลงไปยังหน้าท้องแกร่ง ปลายนิ้วเล็กค่อยๆสัมผัสละเลียดอย่างช้าๆผิดกับอวัยวะด้านบนที่ดูดดึงกันอย่างดุดันจนน่ากลัว เล็บสีชมพูดูสุขภาพดีถูกฝังลงไปบนเนื้อแถวเชิงกรานด้านหลังของเพลิงอย่างไม่ออมแรงเมื่อลำคอขาวถูกคมเขี้ยวของคนขี้แกล้งกัดจนเป็นรอยเลือดซิบ

     เพลิงยืดตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อชมผลงานศิลปะของตัวเอง เขายกยิ้มพอใจขณะไล่สายตามองตั้งแต่ดวงตาที่กำลังปรือปรอย ริมฝีปากบวมเจ่อ ลำคอที่บัดนี้มีร่องรอยสีกุหลาบแต่งแต้มอยู่สามสี่รอยเห็นจะได้ จนมาหยุดอยู่ที่หน้าท้องแบนราบที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของเจ้าของมัน มือหนาผลุบหายเข้าไปในเสื้อเชิ้ตชื้นเหงื่อก่อนจะทำการนวดคลึงเบาๆบริเวณเอวและไต่ขึ้นมาจนถึงหน้าอก

“อ๊ะ อ..อื้อ ค คุณเพลิง”

“ยิ่งคุณไวต่อสัมผัสมากเท่าไหร่ เรื่องของเรามันก็ยิ่งน่าสนุกมากขึ้นเท่านั้น”


หลังจากพูดเย้าแหย่เสร็จเพลิงก็ก้มลงไปจุมพิตที่ยอดอกของอีกคนทันทีจนร่างเล็กถึงกับสะดุ้งหลังแอ่นร้อนถึงคนคุมเกมส์ต้องรีบใช้มือช้อนหลังเอาไว้

“คุณเพลิง ย…อย่า กะ แกล้ง” น้ำละล่ำละลักบอกออกไปในจังหวะเดียวกับที่มือมาหยุดตรงหัวเข็มขัดของคนขี้แกล้ง

“รีบเหรอ ตรงนี้ผมยังไม่ได้อนุญาตเลยนะ”

“…..”

“ถ้าอยากถอด คุณต้องถอดมันด้วยปาก”


สิ้นเสียงทุ้มน้ำก็ทำการจัดท่าทางตัวเองให้อยู่ในท่าคุกเข่าทันที มือขาวค่อยๆเอื้อมไปจับเชิงกรานของเพลิงไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวก่อนจะเลื่อนหน้าต่ำลงอีกเล็กน้อยแล้วจากนั้นก็ทำการปลดเข็มขัดด้วยปากตามด้วยกระดุมกางเกงเป็นลำดับต่อมา ดวงตาเสี้ยวพระจันทร์ช้อนขึ้นมองใบหน้าคมในวินาทีที่ปากเล็กจิ้มลิ้มงับลงไปยังหัวซิปและค่อยๆดึงรั้งมันลงไปจนสุด


เซ็กซี่เป็นบ้า
นั่นคือเสียงที่ดังก้องอยู่ในความคิดของเพลิง


     ร่างโปร่งของน้ำถูกผลักให้ลงไปนอนราบอีกครั้ง ร่างสูงทำการถอดอาภรณ์ช่วงล่างออกไปจนหมดในไม่กี่วินาทีเผยให้เห็นขาเนียนขาวที่ไม่เคยมีใครได้เชยชมมาก่อน จากนั้นเพลิงก็ทำการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองเช่นกัน ขาเรียวถูกจับยกขึ้นตั้งชันก่อนที่ร่างสูงจะเข้ามาแทรกระหว่างกลาง

“ผมไม่ใช่คนใจดีหรอกนะ”

“อื้อ! ผมรู้ครับ” น้ำเอ่ยตอบกลับขณะที่เพลิงกำลังฝังเขี้ยวลงไปยังบริเวณเชิงกรานด้านซ้าย

“เคยมาก่อนไหม”

“ค คุณเพลิงคือคนแรก อ้าา!” น้ำรู้สึกอึดอัดแทบขาดใจเมื่อสิ่งแปลกปลอมถูกดุนดันเข้ามา

“ผ่อนคลาย นี่แค่นิ้วเดียวเอง”


น้ำพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะปล่อยออกมาช้าๆเพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายที่สุดตามคำสั่งของคนด้านบน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็พังไม่เป็นท่าเมื่อนิ้วที่สองและสามถูกใส่เข้ามาพร้อมกัน

“อะ..โอ๊ยย อื้ออ”

“ผมบอกคุณว่าไง ผ่อนคลายหน่อยสิ คุณรัดนิ้วผมแน่นไปแล้วนะ”

“คุณเพลิง จ..อื้อ จูบหน่— อื้มม”


     เสียงแลกน้ำลายฟังดูลามกดังก้องไปทั่วห้อง มีบ้างบางครั้งที่จะมีเสียงหวีดร้องดังแทรกออกมาเมื่อนิ้วยาวไปสัมผัสถูกจุดหฤหรรษ์ ริมฝีปากทั้งสองผละออกจากกันในจังหวะเดียวกันกับที่เพลิงดึงนิ้วทั้งสามออกมา น้ำขยับขาให้อ้ากว้างกว่าเดิมเพื่อรองรับสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วอย่างรู้งานก่อนที่เพลิงจะก้มลงไปปิดปากอีกครั้งพร้อมกับดุนดันลูกชายเข้าไปในโพรงอุ่น ธารน้ำใสยืดออกเป็นสายเมื่อร่างสูงถอนริมฝีปากออก ริมฝีปากบางสีแดงจัดกำลังสั่นระริกจากความเจ็บปวดเบื้องล่างบวกกับนัยน์ตาที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสนั้นช่างเป็นภาพที่ดูน่าสงสารและน่าย่ำยีในเวลาเดียวกันเสียจริง เพลิงขบกรามแน่นทุกครั้งที่ผนังอ่อนนุ่มนั้นรัดตัวตนของเขาจนเกือบแตะขอบฝันทั้งที่ยังไม่ได้ขยับ มือหนาข้างหนึ่งเอื้อมไปจับหัวเตียงไว้มั่นส่วนอีกข้างใช้ท้าวไปกับผืนเตียงก่อนจะเริ่มขยับช้าๆ

“อะ อื้อ…อื้มม”


เสียงครางเครือแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะตามจังหวะการเคลื่อนไหว ช่วงล่างรู้สึกร้อนและแสบไปหมดจากการเสียดสีแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกดีแค่ไหน

“อ๊ะ อะ คุณ พ..เพลิง ตรงนั้นมัน อ้าา” ยิ่งส่วนหัวกระแทกถูกจุดเสียงกรีดร้องจากความสุขสมก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ

“อืม ร่างกายคุณเยี่ยมมาก ดีจริงๆ”

“อ๊ะ…อื้ออ”

“มองกันหน่อยสิ” เปลือกตาสีอ่อนเปิดออกทันทีตามคำสั่ง ดวงตาเสี้ยวพระจันทร์จ้องตรงไปยังดวงตาคมของคนด้านบน ถึงแม้ภาพเบื้องหน้าจะสั่นคลอนไปบ้างตามแรงขยับที่หนักหน่วงแต่นั่นก็ไม่ใส่อุปสรรค มือขาวถือวิสาสะสัมผัสใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตร ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยหยาดเหงื่อให้พ้นกรอบหน้าก่อนจะส่งยิ้มไปให้อีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่นอกจากผู้ชายตรงหน้าแล้วเขาก็ไม่คิดจะมอบมันให้ใครอีก จากรอยยิ้มเล็กๆกลับกลายเป็นรอยยิ้มกว้างเพราะคนตรงหน้าก็ส่งยิ้มมาให้เขาเช่นกัน น้ำค่อยๆยืดตัวขึ้นไปหาเพลิงช้าๆก่อนจะจุมพิตไปที่มุมปากอีกฝ่ายอย่างออดอ้อนแต่ก่อนที่ริมฝีปากจะได้สัมผัสกันอย่างลึกซึ้งอีกครั้งเสียงโทรศัพท์ของใครสักคนก็ดังขึ้นมาซะก่อน

“คะ..คุณเพลิง”

“ไม่ต้องไปสนใจ”

“แต่ อื้อ เขาโทรมาสองสาย ละ อ๊ะ..แล้วนะ”

“เดี๋ยวผมปิดเครื่องเอง” เพลิงยื่นแขนออกไปคว้าโทรศัพท์ที่กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้าก่อนจะปัดป่ายนิ้วไปมาอย่างสะเปะสะปะเพื่อกดปุ่มปิดเครื่องซึ่งต้องใช้เวลาอยู่สักพักถึงจะสำเร็จ


     เมื่อไม่มีอุปสรรคอะไรมากั้นขวางเพลิงจึงจัดการขยับอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่พุ่งสูงจนคนใต้ล่างถึงกับทนไม่ไหวต้องระบายความรู้สึกทุกอย่างด้วยการจิกเล็บลงบนไหล่กว้าง เหงื่อกาฬร่วงหล่นจากกรอบหน้าลงสู่เบื้องล่างตามแรงโน้มถ่วงและแรงสั่นไหวของร่างกาย

“I’m coming baby” และไม่นานเกินรอคนทั้งคู่ต่างก็พากับแตะขอบฝันสำเร็จในระยะเวลาไล่เรี่ยกัน

“อื้อ”

“อ่า”


เพลิงทิ้งตัวลงนอนทับคนตัวเล็กด้านล่างโดยให้ใบหน้าซุกอยู่ที่ซอกคอชื้นเหงื่อของอีกฝ่ายก่อนที่จะพลิกตัวนอนในท่าสบายและดึงรั้งกายขาวมาไว้ในอ้อมกอด

“ผมต้องออกไปแล้วครับ คุณเพลิงจะได้นอนสบาย”

“ลุกไหวให้สิบล้าน”

“…..”

“นอนซะ ผมรู้ว่าคุณเหนื่อย”

“งั้นก็ฝันดีนะครับ”

“อืม ฝันดี”


     หลังจากประโยคบอกฝันดีจบลงห้องทั้งห้องก็กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง เพลิงก้มลงมองใบหน้าของคนที่อยู่ในอ้อมแขนก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มที่ยังคงมีสีเลือดฝาดขึ้นประปรายอย่างเบามือ

“แค่นี้คงพอให้คุณไม่จากผมไปไหนแล้วใช่ไหม”





พอรึเปล่า?

ความคิดเห็น

  1. Tสใแากนาหาแทดาำนสหกรี้ดดดดเเเเเเดดดด

    ตอบลบ
  2. จัดจ้านมากคุณเพลิงงงงง

    ตอบลบ
  3. ประโยคสุดท้าย ทำเราเริ่มหมั้นไส้เพลิงละ...

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม