ASSASSIN nc cut Chapter 14
-NC-
“ป้อนผมด้วยริมฝีปากของคุณ”
หลังจากเอ่ยประโยคแสนเอาแต่ใจออกไปจองกุกก็สัมผัสได้ถึงความเงียบที่ก่อตัวเข้าปกคลุมบรรยากาศโดยรอบ เขาไม่ได้หวังสูงว่าอีกฝ่ายจะต้องตอบตกลงเพราะยังไงซะระหว่างพวกเขาก็ยังมีคำว่า “ตำรวจ” และ “ผู้ร้าย” ค้ำคออยู่แต่ทว่า… ถ้าอีกฝ่ายเกิดตอบตกลงขึ้นมานั่นก็ถือเป็นกำไรของชีวิต เขาไม่ใช่คนนิสัยดีอะไรแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นแบบนี้กับทุกคน จองกุกรู้ตัวเองดีว่าเวลาเขาถูกใจอะไรส่วนใหญ่มันมักจะไม่ค่อยมีเหตุผลแต่ถ้าเขาถูกใจอะไรแล้วเขามักจะได้ครอบครองสิ่งนั้นเสมอมา
และตอนนี้เขาชักจะถูกใจคุณคนร้ายตรงหน้าซะแล้วสิ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ที่ทั้งร่างสูงและชายปริศนาต่างก็ปิดปากเงียบ แต่แล้วเกมส์สงครามประสาทเล็กๆก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงของของเหลวที่ค่อยๆถูกถ่ายเทจากขวดรูปทรงสวยงามลงสู่แก้วกระเบื้องเนื้อดี
บางทีผู้กองจอนจองกุกอาจจะลืมตระหนักไปว่า…
คุณคนร้ายก็ถูกใจในตัวผู้กองไม่น้อยเช่นกัน
“คุณมีชื่อให้ผมเรียกมั้ย”
“เรียกผมว่าราฟ”
เมื่อเห็นผู้กองหนุ่มพยักหน้าเข้าใจราฟจึงตัดสินใจกระดกบรั่นดีเข้าปากพร้อมกับค่อยๆขยับร่างกายเข้าหาอีกฝ่าย เอื้อมมือไปประคองท้ายทอยของร่างสูงตรงหน้าเพื่อให้องศาริมฝีปากของอีกฝ่ายอยู่ในตำแหน่งเหมาะสมง่ายต่อการลิ้มรสบรั่นดีสีอำพันก่อนจะตัดสินใจประกบปากลงไปพร้อมกับปลดปล่อยของเหลวรสชาติขมปร่าเข้าสู่โพลงปากหนาซึ่งบางส่วนก็ไหลเปรอะเปื้อนลงมายังลำคอแกร่ง เมื่อรู้สึกว่าร่างสูงตรงหน้าคงได้ลิ้มรสชาติของแอลกอฮอล์ชั้นดีจนเจ้าตัวน่าจะพอใจแล้วร่างบางของราฟจึงค่อยๆผละออกแต่ก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจเมื่อมือหนาของอีกฝ่ายถูกยกขึ้นมารั้งท้ายทอยของเขาให้ก้มลงรับจูบอันร้อนแรง
จองกุกค่อยๆดูดดึงริมฝีปากล่างของร่างตรงหน้าเพื่อปลอบประโลมอีกฝ่ายจากอาการตกใจเมื่อครู่ซึ่งในขณะเดียวกันมือหนาก็เหนี่ยวรั้งร่างบอบบางให้มานั่งบนตักของเขา พอรู้สึกว่าอีกคนเริ่มผ่อนคลายจองกุกจึงเริ่มสอดลิ้นชื้นของตัวเองเข้าไปในโพลงปากสีหวานเพื่อเก็บเกี่ยวน้ำแร่อันล้ำค่า ใช้เวลาสำรวจอยู่นานจนเจ้าของบ่อน้ำเริ่มขาดอากาศร่างสูงจึงต้องตัดใจผละออกมาก่อนจะฝังใบหน้าลงไปยังซอกคอหอมกรุ่น ดูดดึงไปมาพร้อมกับฝังเขี้ยวอย่างหื่นกระหายเพื่อสร้างรอยตำหนิไว้บนร่างกายที่เขาไม่เคยเห็นแม้แต่ใบหน้า
“อื้อ…อ๊ะ ผู้กอง! ผมเจ็บ”
ยกยิ้มให้กับเสียงติดแหบนั้นที่เอ่ยบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะใช้ริมฝีปากตัวเองปิดกั้นเสียงนั้นด้วยจุมพิตอีกครั้ง กระดุมบนสาบเสื้อเชิ้ตถูกปลดออกไปหลายเม็ดด้วยฝีมือของจองกุกก่อนที่เสื้อตัวบางจะถูกถอดออกไปอย่างไม่ใยดี
“ผมถูกปิดตาอยู่คุณคงต้องทำเอง”
“จะบ้ารึไง! ผมไม่ทำเรื่องน่าอายแบบนั้นหรอก”
“แน่ใจเหรอครับว่าจะไม่ทำ?”
“แน่สิ...”
“อย่ามาโกหกผมหน่อยเลย ผมรู้ว่าคุณต้องการและคุณก็น่าจะรู้ดีว่าผมก็ต้องการเช่นกัน” ไม่พูดเปล่าจองกุกใช้มือหนาของตนกดสะโพกร่างบางให้แนบชิดกับตัวตนของเขาที่กำลังดุนดันอยู่ด้านล่างเพื่อยืนยันว่าตัวเขาต้องการคนตรงหน้ามากแค่ไหน
“…แต่ผมทำไม่เป็น! ผมไม่เคยมีประสบการณ์กับผู้ชาย…”
“หึๆ คุณนี่งอแงเหมือนกันนะ”
“…..”
“ผิดกับลุคผู้ร้ายที่แสดงก่อนหน้านี้ไปเลย”
“…..”
“อย่ากังวลไปเลยเพราะเดี๋ยวผมน่ะจะสอนคุณทุกอย่างเอง”
“ผมไม่น่าหลวมตัวกับคุณเลยจริงๆ”
“หึๆ ความต้องการของมนุษย์มันก็น่ากลัวแบบนี้แหละครับ”
“…..”
“ก่อนอื่นคุณต้องปลดกางเกงออกให้ผมก่อนนะ”
“อืม”
ราฟค่อยๆใช้มืออันสั่นเทาของตัวเองเอื้อมปลดตะขอกางเกงยีนส์ของร่างสูงก่อนจะไถตัวลงไปด้านล่างเล็กน้อยเพื่อจะได้ถอดอาภรณ์ของอีกฝ่ายได้สะดวกขึ้นและเขาก็ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อได้เห็นความอลังการของผู้กองหนุ่ม
“ขึ้นมา”
ร่างบางยันตัวขึ้นนั่งบนตักอีกฝ่ายตามคำสั่งเหมือนเด็กที่เชื่อฟังผู้ปกครอง
ก็แน่ล่ะสำหรับเรื่องแบบนี้กับผู้ชายเขาโคตรจะไร้เดียงสาเลยให้ตายสิ!
เมื่อร่างบางขึ้นไปอยู่บนตักเป็นที่เรียบร้อยแล้วจองกุกจึงเลื่อนมือของตัวเองเพื่อปลดตะขอกางเกงให้อีกฝ่ายบ้างซึ่งเขาก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเจ้าของกางเกงจนต้องให้รางวัลบนริมฝีปากเจ้าตัวไปหนึ่งที
“ดะ...เดี๋ยวก่อน”
“หืม?”
“มันเจ็บมากมั้ย”
“ครั้งแรกมันก็เจ็บนั่นแหละครับ”
“…..”
“แต่สบายใจได้ ผมจะอ่อนโยนกับคุณที่สุด”
สิ้นเสียงจองกุกก็ค่อยๆสอดนิ้วแรกเข้าไปเพื่อเบิกทางช่องทางสีหวานที่ไม่เคยมีใครได้กร้ำกราย เสียงเล็กเล็ดลอดออกมาเป็นระยะๆเพราะความอึดอัดพอรู้สึกว่าร่างบางเริ่มผ่อนคลายเขาจึงเพิ่มจำนวนเป็นสามนิ้วในคราวเดียว
“อะ…โอ๊ย!!”
กดจูบลงไปตรงขมับแทนคำขอโทษก่อนจะขยับนิ้วช้าๆเพื่อให้ช่องทางนั้นเคยชินกับสัมผัสอย่างว่าเสียก่อน
“อ...อื้อ อืม”
หลังจากขยับนิ้วด้วยจังหวะที่ไม่ช้าไม่เร็วอยู่นานจนร่างบางเริ่มผ่อนคลายจองกุกจึงดึงนิ้วทั้งสามออกและแทนที่ด้วยตัวตนของเขาทันที เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วทั้งห้อง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลอาบแก้มใสอย่างน่าสงสาร
“อึก...โอ๊ย!! ไม่เอาแล้ว ฮือ อะ..เอาออกไป!”
“ใจเย็นๆค่อยๆผ่อนคลาย” จองกุกปลอบประโลมร่างเล็กในอ้อมกอดด้วยจุมพิตอันดูดดื่มก่อนที่จะผละออกมา
“อื้มม...”
“คราวนี้คุณลองขยับดูสิ”
“…..” ร่างบางยกมืออันสั่นเทาขึ้นจับบ่าแกร่งอย่างต้องการหาที่ยึดเหนี่ยวก่อนจะค่อยๆยกสะโพกมนของตนขึ้นช้าๆและกดลงต่ำด้วยจังหวะที่แสนเนิบนาบ
“อืม...ช้าแบบนี้พรุ่งนี้เช้าก็คงยังไม่เสร็จ”
“...กลัวเจ็บ”
“งั้นลองขยับอีกรอบสิ ผมจะช่วยคุณเอง”
“อืม”
ราฟตัดสินใจขยับสะโพกมนอีกครั้งโดยมีมือแกร่งคอยประคองกอดเอวของเขาไว้ แรกๆทุกอย่างนั้นเนิบนาบจนร่างสูงรู้สึกหงุดหงิดแต่เมื่ออารมณ์ราคะของร่างบางเริ่มพุ่งสูงขึ้นจังหวะที่แสนเนิบนาบในครั้งแรกก็เริ่มแปรเปลี่ยนและโชติช่วงดั่งกองไฟ
“อะ อื้อ ผ...ผู้ กอง..อย่า กะ กระแทก…แรง”
“อืม...ราฟ คุณนี่ไร้เดียงสาจริงๆนะ”
“ถะ..ถ้าไม่อยากตาย ก็ ง...เงียบปากไปครับ อื้อ! ผะ ผู้กอง..”
“คุณสิที่ต้องเงียบ”
พอจบประโยคจองกุกก็ระดมจูบริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่เขาแสนหลงใหลจนอีกคนแทบขาดใจจากนั้นจึงตามมาด้วยการครอบครองเม็ดทับทิมสีสวยบนหน้าอกบางประกอบกับช่วงล่างที่ยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง
มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น
แต่ก็อย่างที่บอก…
ความต้องการของมนุษย์นั้นน่ากลัว
“ผู้ ผะ..ผู้กอง แฮ่ก ผม ม..ไม่ไหว อื้ออ..ละ แล้ว”
“อืม...งั้นพร้อมกันนะครับ” สิ้นเสียงทุ้มทั้งคู่ก็ปลดปล่อยสายธารแห่งกามรมณ์ออกมาพร้อมๆกัน
“แฮ่กๆๆ” ร่างทั้งร่างของราฟถูกปล่อยทิ้งลงมาบนแผ่นอกหนาของจองกุกพร้อมกับเสียงหอบหายใจอย่างหนัก หัวทุยๆของเขาซบลงบนลาดไหล่แกร่งพอดิบพอดี
“ลุกไหวมั้ย? ผมจะได้เอาออก”
“อืม”
ราฟค่อยๆยกตัวขึ้นด้วยแรงอันน้อยนิดโดยมีมือของผู้กองหนุ่มคอยประคองกอดไว้อยู่ไม่ห่าง พอตัวตนของร่างสูงถูกถอดถอนออกไปน้ำคาวและเลือดมากมายก็ไหลย้อนลงมาทันที
“โอ๊ย!!”
“เจ็บมากมั้ย”
“ครั้งแรก…”
“เจ็บมากสินะ”
“อืม”
“…คุณเหนื่อยมากแล้วพักผ่อนเถอะ” จองกุกถือวิสาสะรวบตัวอีกคนเข้าหาจนจมอกก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยจนทั้งคู่อยู่ในสภาพที่นอนราบไปกับโซฟาโดยมีร่างบอบบางของราฟนอนซบอยู่บนตัวจองกุก
“คุณ---”
“ไม่ต้องห่วงผมไม่ทำอะไรคุณหรอกและที่สำคัญผมจะไม่เปิดผ้าปิดตาอย่างแน่นอน”
“…..”
“ครั้งนี้มันเป็นความต้องการที่เกินขอบเขตของผมเอง”
“…..”
“จริงอยู่คืนนี้ผมมาหาคุณเพราะต้องการจิ๊กซอว์บางอย่างเพื่อเอามาใช้ประติดประต่อคดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันเป็นเรื่องระหว่างเราไม่ใช่เรื่องของคดี” พอสิ้นเสียงทุ้มลื่นหูกับประโยคที่แสนจะน่าคลื่นไส้เปลือกตาสีมุขของราฟก็ค่อยๆปรือปรอยและปิดสนิทลงพร้อมกับลมหายใจสม่ำเสมอที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาได้เข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว
“ผมว่าคดีนี้มันคงไม่จบง่ายๆแล้วล่ะ”
TALK : กลับไปพูดคุยหรืออ่านได้ที่เว็บเด็กดีนะคะ ASSASSIN (KookGa&HopeMin)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น